วัฒนธรรมดนตรีพระวรสารมักจะหมายถึงเพลงคริสเตียนที่ได้เด้งแล้วจากอเมริกันคริสตจักรแอฟริกันต้นซึ่งถูกนำมาใช้ในภายหลังโดยคริสตจักรที่ทันสมัยที่สุดและมีผลต่อนักร้องมากของพระกิตติคุณ R & B และ. วัฒนธรรมดนตรีพระกิตติคุณเป็นที่รู้จักสำหรับเต้นที่เป็นเอกลักษณ์และ tempos ติดต่อที่ มีคนจะโยกและเต้นพร้อมกับคณะนักร้องประสานเสียง เพลงจิตวิญญาณได้รับอิทธิพลหลักจากดนตรีแอฟริกันมาโดยทาสแอฟริกัน การใช้กลอง, เต้นรำและการตบมือแยกความแตกต่างจากเพลงพระกิตติคุณรูปแบบอื่น ๆ ของเพลง. วัฒนธรรมดนตรีพระวรสารที่มีประสบการณ์การปราบปรามช่วงเวลาของการในปีแรกของการเป็นทาสที่ซึ่งส่วนมากเจ้าของทาสทาสของพวกเขาแยกออกจากกันเพื่อที่จะทำให้การรวมกับวัฒนธรรมใหม่ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามทาสพบวิธีที่จะปฏิบัติเพลงซึ่งอาจจะเป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกันว่าพวกเขาสามารถจำของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นนักร้องและการเต้นหลังเลิกงานหรือในเวลากลางคืนในสถานที่ที่พวกเขาจะไม่เป็นได้ยินได้อย่างง่ายดายโดยเจ้าของของพวกเขา ต่อมาจึงทราบว่าเจ้าของทาสมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ร้องเพลง ซึ่งนำไปสู่การชงของดนตรีแอฟริกันกับประเพณีของศาสนาคริสต์และภาษาอังกฤษที่เกิดรากฐานของเพลงพระกิตติคุณ
ทาสการพัฒนางานเพลงที่พวกเขาร้องเพลงในขณะที่แรงงานในเขตข้อมูลออก ขณะที่พวกเขาได้มากขึ้น Christianized เพลงพัฒนาเป็นสิ่งอื่น ๆ ที่จัดขึ้นบริบทในพระคัมภีร์ไบเบิลลึกในขณะที่รักษาข้อความของความรุนแรงของชีวิตและและการกดขี่แรงงานภายใต้เจ้าของขาวของพวกเขา. วัฒนธรรมดนตรีพระวรสารเริ่มที่จะพัฒนาขึ้นมากยิ่งขึ้นเมื่อทาสเริ่มอยู่ร่วมกันใน congregations ในเต้นท์หลังเลิกงานที่จะได้ยินข่าวประเสริฐจะถูกประกาศ พวกเขาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคริสเตียนสวดเก่าคลาสสิกที่พวกเขาภายหลังจะใส่กับเทคนิคทางดนตรีที่พวกเขามากับพวกเขาจากแอฟริกา Improvisations ของคลาสสิกโฆษณาเดิมสวดนำไปสู่เพลงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและการจัดเตรียมใหม่สวด
Gospel Song Lyrics
ส่วนใหญ่ของเพลงพระกิตติคุณพนักงานและการตอบสนองเทคนิคสายซึ่งเป็นเทคนิคการชุมนุมระหว่างผู้บรรเลงเดี่ยวและ นี่คืออิทธิพลของดนตรีแอฟริกันที่ยกมาถึงอเมริกาโดยทาส ผู้บรรเลงเดี่ยวได้รับอนุญาตให้กระทำอย่างไม่ได้กับข้อความและเพลงทำนองของระหว่างการโทรและเทคนิคการตอบสนอง
เพลงเริ่มต้นด้วยพระวรสาร Thomas A. Dorsey, ถือว่าเป็นพระบิดาของพระวรสารที่ประกอบด้วยเพลงสถานที่สำคัญเช่นพระวรสาร"จะมีสันติภาพใน Valley." Dorsey เป็นนักดนตรีที่สมบูรณ์มักจะเล่นบลูส์และดำเนินการกับ Bessie Smith และ Ma Rainey เข้าร่วมการชุมนุมของชาติ Baptist Convention ทำให้เขาเปลี่ยนการตั้งค่าเพลงของเขาและเขาเริ่มเขียนเพลงพระวรสารในหมู่พวกเขา"หากคุณเห็นผู้ช่วยให้รอดของฉัน"
เพลงจิตวิญญาณได้รับความสำคัญน้อยก่อนสงครามกลางเมือง หลังสงครามสิ้นสุดวันที่สนใจใหม่ในเพลงพระกิตติคุณและความเจริญรุ่งเรืองเพลงช้าเริ่มต้นที่จะได้รับการยอมรับด้านนอกของวงกลมทาส ทาสโมฆะกรรมของช่วยปูทางสำหรับการเพาะเลี้ยงความนิยมของเพลงพระกิตติคุณเพราะตอนนั้นเป็นทาสได้รับอนุญาตให้ร้องเพลงเพลงพระกิตติคุณของพวกเขาได้อย่างอิสระ
วัฒนธรรมเพลงพระวรสาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น